Tokyo Marathon ได้เข้ามาเป็นสนามที่ 6 ใน World Marathon Majors ตั้งแต่ปี 2013 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีการพัฒนาระบบการจัดการ ทำให้จำนวนนักวิ่งในแต่ละปีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดมีนักวิ่งประมาณ 35,000 คน

เส้นทางวิ่งโดยรวมเป็นทางเรียบ มีเนินไม่มาก ผ่านจุดท่องเที่ยวหลักๆ ใน Tokyo หลายจุด เช่น Asakusa, Imperial Palace, Tokyo Tower, และย่าน Ginza กองเชียร์สองข้างทางยาวตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเสมือนการปิดเมือง Tokyo เพื่อจัดงานเทศกาลประจำปี ซึ่งแตกต่างและโดดเด่นกว่างานอื่นๆ ด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและความเป็น “ญี่ปุ่น” ที่ไม่เหมือนใคร

กำหนดการ Tokyo Marathon 2024

Friday • 28 February 2025

นักวิ่งเดินทางมาถึงโรงแรมด้วยตนเองตามวิธีที่สะดวก หากท่านมาถึงเร็วกว่าเวลาเช็คอิน สามารถฝากกระเป๋าแล้วไปเดินเที่ยวเล่นตามอัธยาศัยได้ ทีมงานจะ stand-by รอที่บริเวณ lobby ของแต่ละโรงแรมเวลา 15:00 – 18:00 น. โปรดสังเกตป้าย LET’S RUN THE WORLD ให้นักวิ่งมารับกุญแจห้องกับทีมงาน

Saturday • 1 March 2024

7:00 พบกันที่ lobby หากต้องการไป morning run ด้วยกัน

11:00 หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ทีมงานจะพานักวิ่งไปรับบิบที่งาน expo พร้อมกันที่ lobby 11:00

กลับถึงที่พักช่วงบ่าย พักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในวันรุ่งขึ้น

Sunday • 2 March 2024

RACE DAY

ช่วงเช้า ทีมงานพานักวิ่งเดินทางยังจุดปล่อยตัว

ช่วงบ่าย ทีมงานรอรับนักวิ่งที่บริเวณเส้นชัย

ช่วงเย็น Izakaya After-Party พร้อมเพื่อนนักวิ่งและทีมงาน (จะแจ้งสถานที่ให้ทราบอีกครั้ง)

Monday • 3 March 2024

2024

ไม่ว่าท่านจะเตรียมตัวเดินทางกลับ อยู่เที่ยวต่อใน Tokyo หรือออกเดินทางสู่ปลายทางอื่นๆ ในญี่ปุ่น ทีมงาน LET’S RUN THE WORLD หวังว่าทุกท่านจะได้รับความสุขและความสนุกกลับบ้านไปอย่างเต็มอิ่ม

สำหรับท่านที่เดินทางกลับไฟลท์ค่ำ สามารถไปเดินเล่นกันต่อได้ สนุกๆ ครับ

การเดินทางจากสนามบิน

จากสนามบิน Narita (NRT)

ถ้าเป็นรถไฟเร็ว จะมี Skyliner และ Narita Express (N’EX) แต่จะแนะนำให้นั่ง N’EX เนื่องจากโรงแรมของเราอยู่ใกล้ Tokyo Station และเราสามารถนั่ง N’EX มาลง Tokyo Station ได้เลย ในขณะที่ Skyliner มาสุดสายที่ Ueno และต้องต่อรถไฟธรรมดา มาที่ Tokyo Station ถ้าของเยอะอาจจะไม่สะดวก

ตั๋วไป-กลับ จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 เยน ซื้อได้ในเว็บไซต์ https://www.jreast.co.jp/multi/en/nex/tickets/ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50-55 นาที

อีกทางเลือกคือรถบัสจากสนามบินเข้าเมือง โดยมี Keisei Bus โดยจอดแค่สถานีหลักๆ และ NRT Airport Bus ซึ่งตรงเข้า Tokyo Station แบบไม่จอดแวะเลย (ใช้เวลาประมาณ 65 นาที) ราคา 1,300 เยน ค่อนข้างสะดวกมากๆ ซื้อตั๋วได้ที่สนามบินเลย ถ้ามีกระเป๋าสัมภาระ เจ้าหน้าที่จะติด tag และยกกระเป๋าเข้าใต้ท้องรถให้เรา รถจะมาจอดที่ Tokyo Station – Yaesu South Exit อยู่ใกล้กับโรงแรมที่พักมากๆ

จากสนามบิน Haneda (HND)

สนามบินไม่ได้อยู่ไกลมาก ถ้านั่ง taxi น่าจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที ถ้านั่งรถไฟจะมี

  • Train (Tokyo Monorail) จาก HND นั่งมาลงที่ Hamamatsuchō  แล้วเปลี่ยนเป็น JR lines ไปยัง Tokyo Station
  • Train (Keikyu Line) จาก HND นั่งมาลงที่ Shinagawa แล้วเปลี่ยนเป็น JR lines ไปยัง Tokyo Station

หนังสือเดินทาง วีซ่า ศุลกากร

ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ต้องมีอายุหนังสือเดินทางเกิน 6 เดือน ณ วันที่เดินทางเข้า และในหนังสือเดินทางต้องมีหน้าว่าง 2 หน้าสำหรับประทับลงตรา

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น จะพิจารณาให้เฉพาะ “นักท่องเที่ยว” ที่มาเที่ยวโดยสุจริตเท่านั้น ที่ผ่านเข้าเมืองได้และอาจต้องพิจารณาประกอบกับหลักฐานเพิ่มเติม อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวพนักงาน หรือเครดิตการ์ด เป็นต้น การนำเข้าสิ่งของโดยปลอดภาษี ทางด่านศุลกากรอนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 ขวด, บุหรี่ 400 มวน, ยาสูบ 500 กรัม หรือซิการ์ 100 มวน, น้ำหอม 2 ออนซ์, ของกำนัลตลอดจนของที่ระลึก มูลค่าไม่เกิน 2 แสนเยน  มิฉะนั้น ต้องเสียภาษี (สำหรับบุคคลที่อายุยังไม่ถึง 19 ปี และอายุเพียง 19 ปี ไม่อนุญาตให้นำเข้าบุหรี่หรือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์)

ยารักษาโรค

ท่านที่มีโรคประจำตัว และนำยาติดตัวไปด้วย ยาบางชนิดเป็นยาที่รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามนำเข้ามาประเทศ เพราะเป็นยาที่มีส่วนผสมต้องห้ามภายใต้กฎหมายของญี่ปุ่น สถานทูตฯ ไทย จึงขอแจ้งตัวอย่างรายชื่อยาที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายและห้ามนำเข้ามาในญี่ปุ่น ดังนี้

  1. TYLENOL COLD
  2. NYQUIL
  3. NYQUIL LIQUICAPS
  4. ACTIFED
  5. SUDAFED
  6. ADVIL COLD & SINUS
  7. DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
  8. DRISTAN SINUS
  9. DRIXORAL SINUS
  10. VICKS INHALER
  11. LOMOTIL

รัฐบาลญี่ปุ่นมีระบบการตรวจสอบการนำเข้ายาอย่างเข้มงวด ทั้งยาที่นำมาด้วยตัวเองทางเครื่องบิน หรือยาที่ส่งมาทางพัสดุไปรษณีย์ สถานทูตฯ จึงขอเตือนคนไทยทุกคนให้พึงระวังการนำยาเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น หากไม่แน่ใจ ก็ควรนำยานั้นๆ ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรพิจารณาเป็นกรณีเฉพาะ

เครื่องใช้ไฟฟ้า

ปลั๊กไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นเป็น Type A และ B (เหมือนประเทศไทย) แต่ญี่ปุ่นใช้กระแสไฟฟ้า 110 V ต่างกับประเทศไทยที่ใช้ 220 V การจะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไทยไปใช้ที่ญี่ปุ่นควรเช็คก่อนว่าเครื่องจะรับระดับไฟได้ที่เท่าไหร่ หากมีระบุไว้ว่ารับได้ 100 V – 220 V ก็สามารถนำไปใช้ได้

การรับบิบ

สถานที่: Tokyo Big Sight – South Exhibition Halls 3-4
เวลา: 
Feb 27 (Thu), Feb 28 (Fri): 10.00 – 20.30 น.
Mar 1 (Sat): 10.00 – 17.30 น.

(ทีมงานจะพาไปรับบิบวันเสาร์ช่วงสายๆ หลังจากรับประทานอาหารเช้า)

สิ่งที่ต้องเตรียมไปสำหรับการรับบิบ

  1. พาสปอร์ตเพื่อยืนยันตัวตน
  2. QR Code จาก My Entry
tokyo marathon map

การแต่งกายสำหรับนักวิ่ง

แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์ดังต่อไปนี้

  • เสื้อวิ่งแขนยาว base layer
  • เสื้อวิ่งชั้นนอก อาจจะเป็นแขนยาว แขนสั้น หรือ tank ก็ได้
  • กางเกงขายาว base layer
  • กางเกงชั้นนอก อาจจะเป็นขาสั้นที่ถนัดก็ได้
  • ถุงมือ (สำคัญมาก)
  • แว่นกันแดด
  • หมวกหรือ visor
  • เสื้อ jacket หรือเสื้อคลุมกันหนาวก่อนปล่อยตัว เราสามารถฝากของได้

เนื่องจากอากาศในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ค่อนข้างหนาว จึงแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อมหลายๆ แบบ

การเตรียมตัวสำหรับวันแข่งขัน

  • รับประทานอาหารที่ให้พลังงานเพียงพอ โดยเฉพาะพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต
  • พักผ่อน นอนหลับให้เต็มที่และเพียงพอ
  • หากต้องการรับประทานอาหารเช้า เผื่อเวลาให้อาหารย่อยก่อนเวลาปล่อยตัว อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  • นำอุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับวันแข่งขันมาจัดวางเรียงไว้
  • เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการเสียดสี ทาวาสลีนตามรอยต่อของตะเข็บผ้า ข้อพับ และจุดต่างๆ ที่อาจเกิดการเสียดสีเป็นเวลานานระหว่างวิ่ง
  • สามารถเตรียมชุดคลุม เสื้อกันหนาว ชุดกันฝน ใส่ทุกอย่างที่ไม่ใช้ไว้ในกระเป๋าและฝากของไว้ได้
  • อากาศเปลี่ยนแปลง ไม่แน่นอน ท่านที่ไม่ได้เลือกฝากของ สามารถเตรียมเสื้อหนาว หรือชุดคลุมระหว่างยืนรอเวลาปล่อยตัว ให้ร่างกายอบอุ่น เมื่อปล่อยตัว สามารถโยนใส่ในถังบริจาคเสื้อผ้าได้

การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

  • อุปกรณ์ที่ใช้ในวันแข่ง รองเท้า ชุดวิ่งทั้งหมด แนะนำถือติดตัวใส่ใน carry on ป้องกันการผิดพลาดหากกระเป๋าที่โหลดหายหรือกระเป๋าล่าช้า
  • ตัดเล็บเท้าให้สั้น (นักวิ่ง)
  • ตรวจสอบเอกสารที่จำเป็น หนังสือเดินทาง บัตรเครดิต ข้อมูลประกันเดินทาง ยาประจำตัว สำเนาตั๋วเครื่องบินไปกลับ ใบจองโรงแรม ฯลฯ
  • แนะนำให้เตรียมแจ็คเก็ตกันลม กันหนาว ผ้าพันคอติดไปด้วย
  • เตรียมแว่นกันแดด ลิปมัน โลชั่นทาผิว ร่มขนาดเล็ก

การใช้จ่ายในญี่ปุ่น

เป็นหน่วยเงินสกุลเยน (JPY) อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 100 บาท = 24.xx JPY (ข้อมูลเดือนกุมภาพันธ์ 2024)

ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารใหญ่ๆ ทั่วไปรับบัตรเครดิต แนะนำให้ใช้บัตร travel card ที่มีสัญลักษณ์ touchless โดยสามารถแลกเงินบาทเป็นเงินสกุลเยนได้ตามจำนวนที่ต้องการ ผ่าน application ของธนาคารผู้ออกบัตร ซึ่งสะดวกและปลอดภัย

หากต้องการใช้บัตรเครดิต แนะนำให้ตรวจสอบกับธนาคารต้นสังกัดว่ามีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการใช้จ่ายเงินสกุลต่างประเทศหรือไม่

บรรยากาศจาก Tokyo Marathon 2023